เดินเลียบทางรถไฟร้างที่ Abt Road และ Usui Pass
เส้นทาง Usui Pass (碓氷峠 Usuitо̄ge) ที่พาดผ่านจังหวัดกุนมะ (群馬県 Gunma-ken) และจังหวัดนากาโนะ (長野県 Nagano-ken) เคยมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมระหว่างภูมิภาคคันโตและจังหวัดนากาโนะ แต่ก็ขึ้นชื่อเรื่องการเดินทางที่ยากลำบากเช่นกัน สถานี Yokokawa (横川駅 Yokokawa-eki) และสถานี Karuizawa (軽井沢駅 Karuizawa-eki) ตั้งอยู่ห่างกันเพียง 11.2 กม. เท่านั้น แต่มีระดับความสูงต่างกันมากถึง 550 ม. ทีเดียว ด้วยเหตุนี้เส้นทาง Usui Pass จึงมีความชันมากถึง 66.7% และเป็นที่ที่ทางรถไฟแบบ Abt-system (ทางรถไฟแบบใช้เฟืองสะพาน) ถูกใช้งานเป็นครั้งแรก
โมเดลระบบทางรถไฟแบบ Abt-system (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ในปี ค.ศ. 1963 ทางรถไฟแบบ Abt-system ถูกเลิกใช้และถูกแทนที่ด้วยรถจักรพลังงานไฟฟ้า และต่อมาในปี ค.ศ. 1997 รถไฟ Nagano Shinkansen (Hokuriku Shinkansen ในปัจจุบัน) ก็เปิดใช้งาน ทุกวันนี้นักเดินทางสามารถใช้ชินกันเซ็น (新幹線 รถไฟหัวกระสุน) หรือทางด่วนเพื่อเดินทางระหว่างภูมิภาคคันโตและจังหวัดนากาโนะได้แล้ว
แผนที่ของ Abt Road (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
หลังจากที่เส้นทางชินกันเซ็นเปิดให้บริการ รางรถไฟระหว่าง Yokokawa และ Karuizawa ต่างถูกทิ้งร้าง และ Yokokawa กลายเป็นสถานีปลายทางแทน แม้ว่าจะไม่มีรถไฟวิ่งผ่าน Usui Pass แล้ว แต่คนรักประวัติศาสตร์รถไฟก็ยังสามารถหาความสนุกบนเส้นทางนี้ได้โดยการเดินไปตาม Abt Road (アプトの道 Aputo-no-Michi) ซึ่งเป็นเส้นทางเดินชมธรรมชาติยาว 6 กม. ที่ทอดตัวไปตามทางรถไฟแบบ Abt-system ของอดีตทางรถไฟสาย Usui (旧碓氷線 Kyū Usui-sen) ที่ถูกทิ้งร้าง โดยเส้นทางนี้พาดยาวตั้งแต่ Yokokawa ไปจนถึง Kumanotairaเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว
จูเลียเพื่อนร่วมงานของฉันและตัวฉันเองก็ได้ไปเดินตามเส้นทางที่น่าทึ่งแห่งนี้มา เพราะงั้นฉันจะมาพาคุณไปชมบรรยากาศกัน!
เดินทางออกจากสถานี Yokokawa
เดินทางออกจากสถานี Yokokawa (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
การเดินทางไปยัง Abt Road ของพวกเรานั้นเริ่มที่สถานี Yokokawa ถ้าอ้างอิงตามแผนที่เส้นทางเดินของเมืองอันนากะ (Annaka City) แล้วล่ะก็ จะใช้เวลาเดินราว 125 นาทีจาก Yokokawa ไปยัง Kumanotaira (ขาขึ้นเขา) และราว 96 นาทีจาก Kumanotaira มายัง Yokokawa (ขาลงเขา)
ด้วยความที่เรามีเวลาจำกัด จูเลียและฉันจึงตัดสินใจนั่งแท๊กซี่จากสถานี Yokokawa ไปยังสะพานอุซุยหมายเลข 3 (Usui 3rd Bridge) ในช่วงสุดสัปดาห์และช่วงตามฤดูกาลต่างๆ จะมีรถบัสท้องถิ่นที่วิ่งให้บริการจากสถานี Yokokawa ไปยังสะพาน อีกวิธีเดินทางหนึ่งก็คือการเดินขึ้นเขาราว 100 นาที
ศูนย์ให้บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวของเมืองอันนากะ (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
สถานี Yokokawa เป็นสถานีขนาดเล็กและพวกเราหาแท๊กซี่ขึ้นไม่ได้เลย พวกเราจึงมุ่งหน้าไปยังศูนย์ให้บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวเพื่อขอความช่วยเหลือ ศูนย์ให้บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวอยู่ห่างจากสถานีรถไฟในระยะเดิน 5 นาทีถึง และอยู่ตรงจุดเริ่มต้นของเส้นทางเดินชมธรรมชาติของ Abt Road เลย
ที่นี่ คุณสามารถซื้อบรรดาของฝากที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของ Usui Passหรือซื้อเครื่องดื่มของขบเคี้ยวสำหรับการเดินได้ หรือนั่งพักสักนิดก่อนจะเริ่มออกเดิน นอกจากนี้ ที่ศูนย์ฯ นี้ยังมีมุมนิทรรศการเล็กๆ ที่ให้คุณเข้าไปเรียนรู้เกี่ยวกับเมืองอันนากะและประวัติความเป็นมาของเมืองได้ พนักงานที่ใจดีช่วยโทรเรียกแท๊กซี่ไปยังสะพานอุซุยหมายเลข 3 ให้เรา ซึ่งรถมาถึงภายในราวๆ 10 นาที
สะพานอุซุยหมายเลข 3
สะพานอุซุยหมายเลข 3 (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
สะพานอุซุยหมายเลข 3 (碓氷第三橋梁 Usui Daisan Kyōryō) เป็นไฮไลท์หนึ่งของ Abt Road อย่างไม่ต้องสงสัย สะพานที่สร้างด้วยอิฐกว่า 2 ล้านก้อนนี้ถือเป็นสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง สะพานเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.1892 นี้เคยถูกใช้งานสำหรับรถไฟที่เดินทางระหว่าง Yokokawa และ Karuizawa และมีชื่อเล่นว่าเมงาเนะบาชิ (めがね橋 สะพานแว่นตา) ด้วยลักษณะโครงสร้างซุ้มโค้งทั้งสี่อันของมันที่ดูเหมือนรูปแว่นตา
สะพานอุซุยหมายเลข 3 เป็นสะพานอิฐโค้งที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นและเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญร่วมกับโครงสร้างอื่นๆของอดีตทางรถไฟ Usui Pass (Former Usui Pass Railway)
เดินขึ้นบันไดไปยังด้านบนสุดของสะพาน (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ที่ตีนสะพานจะมีลานจอดรถเล็กๆ อยู่ และพวกเราเห็นคนจำนวนมากแวะหยุดเพื่อชมสะพานที่ชวนตื่นตาแห่งนี้ ข้างหลังสะพานจะมีบันไดที่พาเราขึ้นไปยังด้านบนสุดซึ่งใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 5 นาที
สะพานอุซุยหมายเลข 3 (碓氷第三橋梁)
ที่อยู่: Sakamoto, Matsuida-machi, Annaka-shi, Gunma
การเดินทาง: เดิน 100 นาทีไปตามเส้นทาง Abt Road หรือนั่งรถบัส 15 นาที (ให้บริการตามฤดูกาล) จากสถานี JR Yokokawa (横川駅)
ค่าเข้า: ฟรี
เส้นทางสู่ Kumanotaira
มุ่งหน้าสู่ Kumanotaira (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
จากสะพานอุซุยหมายเลข 3 พวกเราเดินราว 25 นาทีไปยัง Kumanotaira ที่เป็นจุดปลายทางของเส้นทางเดินชมธรรมชาติ Abt Road ระหว่าง ระหว่าง Yokokawa และ Kumanotaira จะมีอุโมงค์ทั้งหมด 10 อุโมงค์ด้วยกันแต่ในจำนวนนี้จะมี 5 อุโมงค์ที่ตั้งอยู่ในช่วงสั้นๆ ระหว่างสะพานอุซุยหมายเลข 3 และ Kumanotaira
อุโมงค์แรกที่จูเลียและฉันเจอนั้นเป็นอุโมงค์ที่ยาวที่สุดในบรรดาอุโมงค์ทั้ง 10 นั่นคืออุโมงค์หมายเลข 6 (6号トンネル No. 6 Tunnel) ที่ยาวมากถึง 546 ม. ทีเดียว พวกเราใช้เวลาราว 10 นาทีถึงจะเดินลอดผ่านอุโมงค์ออกไปได้! อุณหภูมิภายในอุโมงค์นั้นเย็นกว่าข้างนอกมาก ทำให้เป็นการเดินที่สบายทีเดียวพวกเราดีใจที่อุโมงค์หมายเลข 7–10 ต่างยาว 100 ม. หรือสั้นกว่านั้น
Kumanotaira. (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ที่ Kumanotaira คุณจะได้เห็นส่วนที่เหลืออยู่ของรางรถไฟที่ถูกทิ้งร้างและที่นี่คือจุดสิ้นสุดของเส้นทาง Abt Road จากตรงนี้ จะต้องใช้เวลาเดินราว 100 นาทีเพื่อกลับไปยังสถานี Yokokawa
ข้างในอุโมงค์เหล่านี้เย็นสบายมาก (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
หลังเที่ยวดูพื้นที่รอบๆ คุมาโนะไทระเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็มุ่งหน้ากลับไปยังสถานี Yokokawa โดยใช้เวลาราวชั่วโมงนึงในการเดินลอดผ่านอุโมงค์ทั้ง 10 โดยอุโมงค์เหล่านี้เป็นอุโมงค์ทางรถไฟที่ถูกทิ้งร้างแล้วและก่อสร้างด้วยอิฐ การเดินผ่านอุโมงค์เหล่านี้ให้ความรู้สึกเหมือนได้ก้าวเข้าไปในอดีตหรือก้าวเข้าไปในอีกโลกหนึ่งก็ว่าได้
หลังออกมาจากอุโมงค์หมายเลข 1 เป็นที่สุดท้าย พวกเราก็มาถึงโทเกะ โนะ ยุ (Toge-no-Yu) ซึ่งเป็นออนเซ็นแบบไปเช้าเย็นกลับแห่งหนึ่ง มันคงจะดีมากถ้าได้แช่น้ำพุร้อนสักแป๊บหนึ่ง แต่น่าเสียดายที่เรามีเวลาน้อยเหลือเกินและต้องรีบไปต่อแล้ว
โทเกะ โนะ ยุ (峠の湯)
ที่อยู่: 1222 Sakamoto, Matsuida-machi, Annaka-shi, Gunma 379-0307
การเดินทาง: เดิน 55 นาที หรือนั่งแท๊กซี่ 5 นาทีจากสถานี JR Yokokawa (横川駅)
เวลาทำการ: 10:00–21:00
ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 700 เยน ใช้บริการได้ 3 ชั่วโมง, ผู้ใหญ่ 900 เยน ใช้บริการได้ 6 ชั่วโมง, ผู้ใหญ่ 1,000 เยน ใช้บริการได้เต็มวัน
บรรดารางรถไฟเก่าๆ และลิงที่เจอระหว่างทาง (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
จากโทเกะ โนะ ยุ พวกเราสังเกตเห็นรางรถไฟเก่าๆตามเส้นทางเดิน และที่นี่อีกเช่นกันที่พวกเราเริ่มเห็นลิง แล้วก็ลิงอีกหลายตัวด้วยบางตัวดูอยากรู้อยากเห็นและตามพวกเรามาระหว่างที่พวกเราเดินผ่าน ขณะที่ตัวอื่นๆ ง่วนอยู่กับการพัก ทำตัวเอื่อยเฉื่อยไปเรื่อย และนอนอยู่บนสายเคเบิ้ลและรั้วต่างๆ
อดีตสถานีไฟฟ้าย่อยมารุยามะ
อดีตสถานีไฟฟ้าย่อยมารุยามะ (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
หลังจากเดินมาราว 15 นาที พวกเราก็มาถึงอดีตสถานีไฟฟ้าย่อยมารุยามะ (旧丸山変電所 Kyū Maruyama Hendensho) ที่เปิดทำการครั้งแรกในปี ค.ศ. 1912 ในอดีตที่นี่เคยเป็นสถานีไฟฟ้าย่อยซึ่งคอยแปลงพลังงานไฟฟ้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเพื่อป้อนและรองรับบรรดารถไฟหัวจักรไอน้ำของอดีตทางรถไฟสาย Usui จนเมื่อตัวทางรถไฟถูกปรับให้เป็นระบบไฟฟ้าในปีค.ศ. 1963 อดีตสถานีไฟฟ้าย่อยมารุยามะก็ไม่ต้องทำหน้าที่นี้อีกต่อไป
อดีตสถานีไฟฟ้าย่อยมารุยามะ (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
เช่นเดียวกันกับสะพานอุซุยหมายเลข 3 และโครงสร้างอื่นๆที่ตั้งอยู่ตามทางรถไฟที่ถูกทิ้งร้างแห่งนี้ อดีตสถานีไฟฟ้าย่อยมารุยามะเองก็ถูกจัดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญในปีค.ศ.1994 ทุกวันนี้ แม้ว่าตัวสถานีไฟฟ้าย่อยจะไม่ได้ถูกใช้งานและไม่ได้เปิดให้คนทั่วไปเข้าไปข้างในได้ แต่เราก็ยังมาชมและเข้าไปดูใกล้ๆ จากข้างนอกได้นะ
Usuitouge Railway Heritage Park
Usuitouge Railway Heritage Park. (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
หลังจากเดินอีก 36 นาทีจากอดีตสถานีไฟฟ้าย่อยมารุยามะพวกเราก็มาถึง Usuitouge Railway Heritage Park (碓氷峠鉄道文化むら Usuitо̄ge Tetsudо̄ Bunka Mura) ถึงจะเหนื่อยแต่พลังใจเรายังดีอยู่เพราะพวกเราใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของเส้นทางเดินแล้ว พวกเราเดินต่อไปตามเส้นทางเดิน แต่ก็หยุดชะงักไปเมื่อเห็นรถไฟบรรทุกสินค้าประมาณสิบคันจอดอยู่ พวกเรามาถึงที่ Usuitouge Railway Heritage Park แล้ว! น่าเสียดายที่พวกเรามาเดินกันในวันอังคารซึ่งเป็นตอนที่สวนปิดพอดี
Usuitouge Railway Heritage Park. (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
Usuitouge Railway Heritage Park เป็นสวนสนุกธีมรถไฟที่จัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์ของอดีตทางรถไฟสาย Usui และจัดแสดงขบวนรถที่เคยถูกใช้งานในช่วงเส้นทางระหว่าง Yokokawa และ Karuizawa ของทางรถไฟที่ถูกทิ้งร้าง เช่น หัวรถจักร Abt Rack, บรรดารถไฟ EF63 และรถไฟเก่าแก่อื่นๆ
สัมผัสประวัติศาสตร์ของทางรถไฟได้ที่ Usuitouge Railway Heritage Park. (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
นอกจากการเรียนรู้ประวัติศาสตร์เพิ่มเติมและชมรถไฟเก่าๆ แล้ว ผู้เข้าชมยังสามารถสัมผัสประสบการณ์นั่งบรรดารถไฟ SL ขบวนเล็ก และรถไฟโทรกโกะ (Torokko) แบบ Open-air หรือจะลองขับหัวรถจักรไฟฟ้า EF63 ด้วยตนเองก็ได้เช่นกัน
ในวันหยุดสุดสัปดาห์ รถไฟโทรกโกะแบบ Open-air นั้นจะวิ่งให้บริการระหว่างโทเกะ โนะ ยุ, อดีตสถานีไฟฟ้าย่อยมารุยามะ และ Usuitouge Railway Heritage Park ทำให้การนั่งรถไฟนี้เป็นอีกประสบการณ์หนึ่งที่สนุกเช่นกัน
Usuitouge Railway Heritage Park (碓氷峠鉄道文化むら)
ที่อยู่: 407-16 Yokokawa, Matsuida-machi, Annaka-shi, Gunma 379-0301
การเดินทาง: เดิน 3 นาทีจากสถานี JR Yokokawa (横川駅)
เวลาทำการ: 9:00–17:00 (มีนาคม–ตุลาคม) / 9:00–16:30 (พฤศจิกายน–กุมภาพันธ์) / ปิดทำการทุกวันอังคาร (ยกเว้นเดือนสิงหาคม) และในช่วงสิ้นปี (29 ธันวาคมถึง 4 มกราคม)ค่าเข้า: 700 เยน / คน (นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป), 400 เยน / คน (นักเรียนประถมศึกษา), เด็กอายุต่ำกว่าระดับประถมศึกษาเข้าฟรี
หมายเหตุ: การนั่งรถไฟ SL ขบวนเล็ก / รถไฟโทรกโกะแบบ Open-air และการทดลองขับหัวรถจักร EF63 จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
มื้อบ่าย: โทเกะ โนะ คามาเมชิ
โอกิโนยะใกล้สถานี Yokokawa. (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ตอนที่พวกเราไปถึงสถานี Yokokawa ก็ 15:00 น. แล้ว และพวกเราก็หิวโซได้ที่เลย แต่โชคดีที่ Yokokawa เป็นต้นกำเนิดของเอกิเบ็น (駅弁 ข้าวกล่องสำหรับรับประทานบนรถไฟ) ชื่อดัง นั่นคือโทเกะ โนะ คามาเมชิ (峠の釜めし Tо̄ge no Kamameshi)และใกล้ๆกับสถานีรถไฟก็มีร้านโอกิโนยะ (荻野屋, Oginoya) ขนาดใหญ่อยู่
ในอดีต ก่อนที่ Nagano Shinkansen (Hokuriku Shinkansen ในปัจจุบัน) จะเปิดทำการในปีค.ศ. 1997 รถไฟจะต้องมาแวะที่ Yokokawa ซึ่งเป็นที่ที่หัวรถจักรไฟฟ้า EF63 จะเชื่อมต่อกับขบวนรถไฟก่อนที่จะเดินทางไต่ระดับขึ้นเขาผ่านเส้นทาง Usui Pass ไปยัง Karuizawa การเชื่อมหัวรถจักรเข้ากับขบวนรถไฟที่สถานี Yokokawa นั้นใช้เวลานาน และโอกิโนยะที่เปิดกิจการอยู่ก็ถือโอกาสนี้เริ่มขายเอกิเบ็นโทเกะ โนะ คามาเมชิที่ชานชลารถไฟในช่วงที่ผู้โดยสารกำลังรอรถอยู่ จนถึงทุกวันนี้ โทเกะ โนะ คามาเมชิก็ยังเป็นเอกิเบ็นที่เป็นที่ชื่นชอบและเป็นตัวแทนของจังหวัดกุนมะ
โทเกะ โนะ คามาเมชิและบรรดารสพิเศษ (เครดิตภาพ: JR East / Julia Yee)
จูเลียและฉันเร่งฝีเท้าไปยังร้านโอกิโนยะ แต่น่าเสียดาย พวกเรามาช้าไปและโทเกะ โนะ คามาเมชิรสพิเศษอย่างอุนางิ (ปลาไหล) และไก่ขายหมดไปแล้ว อย่างไรก็ตาม พวกเราต่างไม่เคยชิมโทเกะ โนะ คามาเมชิรสดั้งเดิมมาก่อน ดังนั้นพวกเราเลยแฮปปี้มากที่จะชิมสูตรปกติดั้งเดิมกัน
โทเกะ โนะ คามาเมชิ (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ตัวเอกิเบ็นโทเกะ โนะ คามาเมชินั้นเต็มไปด้วยของดีมากมาย เช่นเกาลัด หน่อไม้ โกโบ (หญ้าเจ้าชู้) เห็นชีทาเกะ และไข่นกกระทา ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกนำมาหุงรวมกันกับข้าวในหม้อเครื่องปั้นดินเผา นอกจากจะเป็นอาหารที่อร่อยในตัวอยู่แล้วจุดพิเศษอย่างหนึ่งของเอกิเบ็นนี้ก็คือภาชนะที่เป็นเครื่องปั้นดินเผาคุณภาพดีของมันที่ใช้เป็นของที่ระลึกชั้นเยี่ยมได้เลย!
กาชาปองโทเกะ โนะ คามาเมชิ (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
ร้านโอกิโนยะไม่ได้เป็นเพียงภัตตาคารเท่านั้นแต่ยังจำหน่ายของที่ระลึกอีกด้วย ฉันลองหมุนแคปซูลของเล่นโอกิโนยะกาชาปองสุดพิเศษดูซึ่งเราจะสุ่มได้หนึ่งในบรรดาเอกิเบ็นของเล่นของโอกิโนยะทั้งหกแบบ ฉันโชคดีมากที่หมุนได้โทเกะ โนะ คามาเมชิของเล่นได้ในครั้งแรกเลยซึ่งฉันนำมันมาประกอบก่อนที่จะเริ่มอร่อยกับมื้ออาหารของฉัน
พวกเราใช้เวลาที่โอกิโนยะกันมากไป (เครดิตภาพ: JR East / Carissa Loh)
หลังจากที่ใช้เวลามากเกินไปกับการดูของฝากที่โอกิโนยะคัดสรรมาขาย จูเลียกับฉันก็วิ่งกลับไปที่สถานี Yokokawa และขึ้นรถไฟตอน 16:30 น. มุ่งหน้าไปยังทากาซากิ (Takasaki) ได้ทันเวลาพอดี
Oginoya Yokokawa Shop (荻野屋 横川店)
ที่อยู่: 297-1 Yokokawa, Matsuida-machi, Annaka-shi, Gunma 379301
การเดินทาง: เดิน 5 นาทีจากสถานี JR Yokokawa (横川駅)
เวลาทำการ: 9:00–17:00
การเดินทาง
การเดินไปตาม Abt Road ของพวกเราเป็นอะไรที่วิเศษมากและนอกจากวิวสวยตื่นตาแล้ว พวกเรายังได้เรียนรู้อะไรอีกมากเกี่ยวกับอดีตทางรถไฟสาย Usui และประวัติของมันที่ไม่เหมือนใคร ฉันหวังว่าจะได้ไปเที่ยวที่นี่อีกครั้งในฤดูใบไม้ร่วงซึ่งเป็นช่วงที่บรรดาต้นไม้มากมายตามเส้นทางเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ส้ม และแดงหลากเฉดสี การเดินทางไปยัง Abt Road จากสถานี JR Yokokawa นั้นง่ายมาก โดยสถานีนี้อยู่ห่างจากสถานี JR Takasaki ซึ่งเป็นสถานีของ Joetsu Shinkansen และ Nagano Shinkansen ราวครึ่งชั่วโมง
JR TOKYO Wide Pass
ตั๋ว JR TOKYO Wide Pass และพื้นที่ที่ครอบคลุม (เครดิตภาพ: JR East)
คุณกำลังอยากไปเที่ยว Yokokawa และ Abt Road อยู่หรือเปล่า? ขอแนะนำ JR TOKYO Wide Pass ตั๋ว Pass ราคาย่อมเยาที่ให้คุณขึ้นรถไฟในเครือ JR East (รวมถึงชินกันเซ็น) ได้แบบไม่จำกัดในพื้นที่ที่ตั๋วครอบคลุมตลอดระยะเวลา 3 วันติดกัน ด้วยราคาเพียง 10,180 เยน ตั๋วนี้มีราคาเทียบเท่ากับค่าตั๋วไป-กลับระหว่างโตเกียวและสถานี Yokokawa (~10,700 เยน) นอกจากนี้ คุณยังสามารถจองที่นั่งบนรถไฟชินกันเซ็น รถไฟด่วนพิเศษบางขบวน และรถไฟ Joyful Train อย่าง SL Gunma ได้ฟรีผ่านช่องทางออนไลน์ โดยจองล่วงหน้าได้นานถึง 1 เดือนที่นี่
ตั๋ว JR TOKYO Wide Pass สามารถใช้กับประตูตรวจตั๋วอัตโนมัติได้ และผู้ถือพาสปอร์ตต่างชาติที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นก็สามารถใช้ตั๋วโดยสารนี้ได้เช่นกัน
The Japan Rail Fair 2022
(เครดิตภาพ: JAPAN RAIL CAFE)
อยากรู้จัก Abt Road และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของรถไฟอื่นๆ อีกไหมเอ่ย? มาร่วมงานสัมนาพิเศษกับเราใน The Japan Rail Fair ภายในงาน ตามพวกเราไปทัวร์สนุกๆ ตามสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของทางรถไฟ และไปนั่งทริปรถไฟสั้นๆ จากโตเกียวไปยังแหลมอิสุ Takeshiba Waterfront และคาวากุจิโกะ!
สุขสันต์วันทางรถไฟ! สนุกไปกับประวัติศาสตร์ทางรถไฟและทริปนั่งรถไฟสุดตื่นเต้นจากโตเกียว
วันที่: 14 ตุลาคม 2022 (วันศุกร์)
เวลา: 18:30~
ชมได้ที่นี่: ไลฟ์สดผ่าน Facebook และ YouTube
เครดิตภาพปก: JR East / Carissa Loh
Translated by ANNGLE
บทความที่เกี่ยวข้อง
Carissa Loh
Latest Topics
